ในโลกธุรกิจ นำเข้า-ส่งออก ที่แข่งขันสูง เลือกวิธีชำระเงินและ INCOTERMS ลดความเสี่ยงธุรกิจนำเข้า-ส่งออก
ถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ มืออาชีพไม่ควรมองข้าม เพราะการจัดการเงื่อนไขการชำระเงิน
และข้อตกลง การส่งมอบสินค้าอย่างเหมาะสม สามารถช่วย ลดความเสี่ยงทางการเงิน, ลดต้นทุนโลจิสติกส์,
และ เพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งระหว่างประเทศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ แนะนำว่า การจับคู่การ ลือกวิธีชำระเงินและ INCOTERMS ลดความเสี่ยงธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ควรพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1.ระดับความไว้วางใจระหว่างคู่ค้า
2.ความซับซ้อนของสินค้า และกระบวนการขนส่ง
3.เงื่อนไขทางภาษี และกฎหมายของประเทศปลายทาง

เช่น หากเป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น ส่งออกไปตลาดใหม่ การใช้ CIF ร่วมกับ L/C จะช่วยให้ ผู้ขายมั่นใจว่ามีการชำระเงินแน่นอน ขณะที่ผู้ซื้อได้รับความคุ้มครอง จากประกันภัยระหว่างทาง ในทางกลับกัน หากเป็นคู่ค้าที่มีความสัมพันธ์ยาวนาน การใช้ FOB ร่วมกับ Documentary Collection อาจเพียงพอ ในการลดความเสี่ยงโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมธนาคารสูง

นอกจากนี้ การบูรณาการเทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการตรวจสอบข้อมูล เช่น ระบบติดตามสถานะการชำระเงินแบบ
เรียลไทม์ (Payment Tracking) หรือแพลตฟอร์ม โลจิสติกส์ดิจิทัลที่เชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งและเอกสารระหว่างประเทศ ก็ช่วยลดโอกาสเกิดความผิดพลาดและเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการทำงาน

ธุรกิจนำเข้า-ส่งออกขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ควรให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เพราะความผันผวนของค่าเงินอาจส่งผลต่อกำไรโดยตรง การใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น Forward Contract หรือ Hedging จะช่วยให้ควบคุมต้นทุนได้แม้ในช่วงตลาดไม่แน่นอน

อีกกลยุทธ์หนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมคือ “การใช้ระบบดิจิทัลเพื่อจัดการเอกสาร INCOTERMS และ Payment Terms แบบอัตโนมัติ” ซึ่งช่วยลดเวลาการตรวจสอบ ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูล และเก็บหลักฐานทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ หากเกิดข้อพิพาททางการค้า ก็สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ง่ายและรวดเร็ว


การ เลือกวิธีชำระเงินและ INCOTERMS ลดความเสี่ยงธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ทำไมจึงสำคัญ

ลดความเสี่ยงทางการเงิน

ในระบบการค้าระหว่างประเทศ ความล่าช้าในการชำระเงินหรือการไม่ได้รับเงินตามกำหนดเป็นปัญหาหลัก วิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงนี้คือการใช้ Letter of Credit (L/C) ซึ่งรับรองการชำระเงินจากธนาคาร หรือ Documentary Collection ที่ช่วยควบคุมเอกสารก่อนส่งมอบสินค้า

ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

การเลือกวิธีชำระเงิน ที่เหมาะสมกับความเชื่อมั่นของคู่ค้า ช่วยให้ธุรกรรมโลจิสติกส์ดำเนินได้รวดเร็ว ลดขั้นตอนเอกสาร และสร้างความเชื่อมั่นในระบบนำเข้า-ส่งออกมากขึ้น


INCOTERMS คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ

INCOTERMS (International Commercial Terms) คือกฎสากลที่ออกโดย ICC เพื่อกำหนดขอบเขต ความรับผิดชอบของผู้ซื้อ และผู้ขายในการขนส่งสินค้า ซึ่งมีผลต่อค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงทางโลจิสติกส์โดยตรง

ประเภทของ INCOTERMS ที่นิยมใช้

  • EXW (Ex Works): ผู้ซื้อรับความเสี่ยงตั้งแต่ต้นทาง
  • FOB (Free On Board): ผู้ขายรับผิดชอบจนสินค้าขึ้นเรือ
  • CIF (Cost, Insurance & Freight): ผู้ขายรับผิดชอบค่าส่งและประกันจนถึงท่าเรือปลายทาง
รหัสชื่อเต็มความหมายความรับผิดชอบหลัก
EXWEx Worksผู้ซื้อรับสินค้าจากโรงงานผู้ซื้อรับความเสี่ยงตั้งแต่ต้นทาง
FOBFree On Boardผู้ขายจัดส่งจนถึงเรือผู้ซื้อรับผิดชอบหลังขึ้นเรือ
CIFCost, Insurance & Freightผู้ขายรับผิดชอบค่าส่งและประกันภัยผู้ซื้อรับของที่ท่าเรือปลายทาง
DDPDelivered Duty Paidผู้ขายส่งถึงปลายทางพร้อมภาษีผู้ขายรับผิดชอบทั้งหมด

(อ่านเพิ่มเติม: Incoterms® 2020 Explained – ICC)

การเลือก INCOTERMS ให้เหมาะสม

การเลือก INCOTERMS ที่เหมาะสมควรคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น

  • ประเภทสินค้า (เช่น เน่าเสียง่าย, มูลค่าสูง, ต้องประกันพิเศษ)
  • ศักยภาพของคู่ค้า (มีทีมโลจิสติกส์เองหรือไม่)
  • ความคุ้นเคยกับตลาดปลายทาง

ตัวอย่างเช่น

  • หากเป็นสินค้าขนาดใหญ่และซับซ้อน ควรใช้ CIF เพื่อให้ผู้ขายจัดการทุกอย่างรวมถึงประกันภัย
  • หากต้องการควบคุมต้นทุนและขนส่งเอง ควรใช้ FOB เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกผู้ขนส่งที่ไว้ใจได้

กลยุทธ์การลดความเสี่ยงด้วยการรวมวิธีชำระเงินและ INCOTERMS

การจับคู่ L/C กับ FOB

ช่วยให้ผู้ขายมั่นใจว่าจะได้รับชำระเงินหลังสินค้าขึ้นเรือ และผู้ซื้อสามารถควบคุมการขนส่งได้อย่างโปร่งใส

การใช้ CIF ร่วมกับ Documentary Collection

เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการ ให้ผู้ขายรับผิดชอบค่าส่งและประกันภัย จนถึงท่าเรือปลายทาง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของผู้ซื้อ

การเลือกวิธีชำระเงินที่ตรงกับ INCOTERMS

ช่วยลดข้อพิพาท ลดต้นทุน และทำให้ธุรกิจ โลจิสติกส์ นำเข้า-ส่งออก เดินหน้าได้อย่างราบรื่น


ตัวอย่างการใช้งานจริงในธุรกิจนำเข้า-ส่งออก

  • ธุรกิจส่งออกผลไม้สด: ใช้ FOB + L/C เพื่อรับประกันการชำระเงินทันทีที่สินค้าขึ้นเรือ
  • ธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบเครื่องจักร: ใช้ CIF + Documentary Collection ลดความเสี่ยงด้านขนส่งและประกันภัย
  • โลจิสติกส์ครบวงจร: ใช้ INCOTERMS ร่วมกับ Payment Term ที่ยืดหยุ่น เพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน

กลยุทธ์การลดความเสี่ยง: การจับคู่ “วิธีชำระเงิน” กับ “INCOTERMS”

T/T + EXW
เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการความรวดเร็วและมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นแฟ้น

L/C + FOB
เหมาะกับสินค้ามูลค่าสูง ช่วยให้ผู้ขายมั่นใจว่าจะได้รับเงินหลังสินค้าขึ้นเรือ และผู้ซื้อสามารถบริหารขนส่งได้เอง

CIF + Documentary Collection
เหมาะกับคู่ค้าที่ไว้ใจได้ระดับหนึ่ง ผู้ขายรับผิดชอบค่าส่งและประกันภัย ส่วนผู้ซื้อควบคุมการปล่อยเอกสารก่อนรับสินค้า


สรุป

เลือกวิธีชำระเงินและ INCOTERMS ลดความเสี่ยงธุรกิจนำเข้า-ส่งออก

เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในธุรกิจโลจิสติกส์ นำเข้า และส่งออก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางการเงินและความน่าเชื่อถือของคู่ค้า ผู้ประกอบการควรศึกษาและวิเคราะห์เงื่อนไขที่เหมาะสม เพื่อให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมั่นคงในตลาดโลก
ดูบทความอื่นๆได้ที่